top of page

ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ มีอะไรบ้าง


ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ มีอะไรบ้าง

กัญชาคืออะไร พืชญชา หรือที่เรียกว่า Cannabis ถูกนำมาใช้เพื่อสรรพคุณทางยามายาวนานกว่า 1,000 ปี มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นยาแผนโบราณ ในทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา และทวีปอเมริกา การใช้กัญชาทางการแพทย์ถูกไว้เป็นครั้งแรกในตำราจีนโบราณ สามารถนำกัญชามาใช้ในการรักษาอาการเจ็บปวดต่างๆ เช่น การรักษาอาการอักเสบ และปัญหาทางเดินอาหาร เป็นต้น


เมื่อไม่นานมานี้ กัญชาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น อาการปวดเรื้อรัง, ความวิตกกังวล และโรคลมบ้าหมู อย่างไรก็ตาม การใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ ซึ่งบางประเทศออกกฎหมายห้ามกัญชาใน แต่อย่างที่เราทราบกันมาแล้วว่า ประเทศไทยของเรา ตอนนี้ก็ได้มีการยอมรับการใช้ กัญชาทางการแพทย์ อย่างถูกกฎหมาย เริ่มต้นปี 2023 ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงกันได้อย่างง่ายมากขึ้น


THC (ทีเอชซี) และ CBD (ซีบีดี) คืออะไร และส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?

กัญชา เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์เพื่อใช้ในการลดอาการเจ็บปวด เพราะ ประโยชน์กัญชา มีมากมาย เช่น ช่วยทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งกัญชามีสารประกอบมากกว่า 100 ชนิดเลยทีเดียว ที่เรียกว่า cannabinoids ซึ่งจะแบ่งออกมาเป็น 2 ชนิด ได้แก่ สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC (ทีเอชซี) และ สารแคนนาบินอยด์ หรือ CBD (ซีบีดี) ที่มีการออกฤทธิ์แตกต่างกันออกไป เราตามมาอ่านรายละเอียดกันต่อได้เลย



THC (ทีเอชซี) คืออะไร

THC (ทีเอชซี) คืออะไร

THC - Tetrahydrocannabinol (ทีเอชซี) เป็นสารเมา ที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และ ประสาท เมื่อบริโภค THC (ทีเอชซี) จะส่งผลต่อส่วนสมองและร่างการ ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ก่อให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง เช่น หัวใจเต้นแรงมากขึ้น, ประสาทหลอน รวมถึงการทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้แล้วก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณเลือกใช้ นอกจากนี้แล้วสภาพแวดล้อมของการเลือกใช้สารกัญชา THC (ทีเอชซี) นี้ก็มีผลกระทบกับความรู้สึกของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าความรู้สึกการอยากอาหารจะเพิ่มขึ้นในการใช้ THC (ทีเอชซี) การเลือกใช้สำหรับการแพทย์นั้น ก็มักจะนำไปใช้ในการระงับปวด, ต้านการอักเสบ และคลายกล้ามเนื้อ เป็นที่นิยมในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง, อาการกล้ามเนื้อกระตุก และอื่นๆ อีกมากมาย




CBD (ซีบีดี) คืออะไร

CBD (ซีบีดี) คืออะไร

ในทางกลับกัน CBD - Cannabidiol (ซีบีดี) เป็นสารประกอบที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลที่ทำให้มึนเมาหากเราเทียบกับสาร THC (ทีเอชซี) โดยสาร CBD (ซีบีดี) มีการทำงานเอนโดแคนนาบินอยด์ด้วยวิธีที่ต่างออกไป สาร CBD (ซีบีดี) จะส่งเสริมความสมดุลในร่างกายเช่น ฤทธิ์ต้านความวิตกกังวล ต้านการอักเสบ และฤทธิ์ต้านอาการทางจิต นอกจากนี้แล้วก็ยังพบว่า CBD (ซีบีดี) มีคุณสมบัติในการรักษาโรคอื่นๆ หลายอย่างเช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า อาการชัก และอาการปวดเรื้อรัง อีกด้วยเช่นกัน


แม้ว่า THC (ทีเอชซี) และ CBD (ซีบีดี) เป็นสารแคนนาบินอยด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด 2 ชนิดในกัญชา แต่ก็ไม่ได้มีการสารเดียวที่มีศักยภาพในการรักษา cannabinoids อื่น ๆ เช่น cannabigerol - CBG (แคนนาบิเจอรอล), cannabichromene - CBC (ซีบีดี) และ tetrahydrocannabivarin - THC (ทีเอชซี) ก็มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และมีประโยชน์ทางการแพทย์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม THC (ทีเอชซี) และ CBD (ซีบีดี) ยังคงเป็นจุดสนใจของการวิจัยกัญชาส่วนใหญ่ เพราะเป็นสารประกอบหลักสองชนิดที่ผู้บริโภคมองหา และมีการนำไปใช้ทางการแพทย์นั่นเอง


ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์

ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์

การใช้กัญชามีผลประโยชน์มากมาย ทั้งยังเป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งการเลือกใช้สารกัญชาจะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและลดความวิตกกังวลได้ดี เหมาะสำหรับการใช้รักษาผู้ป่วยที่นอนไม่ค่อยหลับ, โรคเครียด, โรควิตกกังวล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ต้องการเลือกใช้กัญชาในการรักษานั้น จำเป็นต้องปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกัญชา หรือแพทย์ที่ใช้พืชกัญชารักษาโรคโดยตรง เพื่อการเลือกใช้ปริมาณในการรักษาอย่างเหมาะสมที่สุด แน่นอนว่าการใช้กัญชานั้นก็อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปัญหาระบบทางเดินหายใจ จากการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ความวิตกกังวล โรคลมชัก หรือาจจะความเสี่ยงโรคซึมเศร้า เพราะฉะนั้นแล้วสามารถปรึกษาการใช้กัญชากับ Kana Wellness Center ก่อนใช้ได้เลย


การใช้กัญชาทางการแพทย์ดีกว่ายาเคมีบำบัดอย่างไร

กัญชาทางการแพทย์ช่วยจัดการกับผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เจ็บปวด และความเหนื่อยล้า สารแคนนาบินอยด์ในกัญชาทำปฏิกิริยากับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ของร่างกายเพื่อลดอาการคลื่นไส้ กระตุ้นความอยากอาหาร รักษาโรคมะเร็ง บรรเทาอาการปวด ลดความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าได้อย่างดี ซึ่งคุณควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยาอื่นๆ


การใช้กัญชาช่วยเรื่องการนอนหลับพักผ่อนได้อย่างไร

การใช้กัญชาทางการแพทย์ สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ โดยจะช่วยการลดความวิตกกังวลและความเครียด บรรเทาความเจ็บปวด และทำให้ผ่อนคลาย สารแคนนาบินอยด์ในตัวกัญชา มีปฏิกิริยากับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ของร่างกาย เพื่อส่งเสริมการนอนหลับและควบคุมระยะเวลาในการพักผ่อน อย่างไรก็ตาม การใช้อย่างต่อเนื่องก็อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ได้เหมือนกัน


กัญชาช่วยจัดการกับอาการปวดเรื้อรังได้อย่างไร

กัญชาทางการแพทย์ สามารถช่วยจัดการกับอาการปวดเรื้อรัง ลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดเมื่อยตามเส้นประสาท ซึ่งตัวสารแคนนาบินอยด์ในกัญชาจะเข้าไปทำปฏิกิริยา กับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ของร่างกายเพื่อบรรเทาอาการปวด อย่างไรก็ตามควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง และปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้


สารกัญชา CBD (ซีบีดี) ช่วยลดอาการอักเสบ

สารกัญชา CBD (ซีบีดี) หรือ cannabidiol มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ที่สามารถช่วยลดการอักเสบภายในร่างกายได้ สามารถทำงานโต้ตอบกับระบบ endocannabinoid ของร่างกายเพื่อควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและลดการผลิตไซโตไคน์ที่อักเสบ CBD (ซีบีดี) แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาในการลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคลำไส้อักเสบ เป็นต้น


การใช้กัญชาสามารถช่วยโรคลมชักได้อย่างไร

กัญชา มีประสิทธิภาพช่วยลดอาการชักในผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมู ซึ่งสาร cannabinoids ในกัญชา CBD (ซีบีดี) จะทำปฏิกิริยากับระบบ endocannabinoid ของร่างกายเพื่อลดความถี่และความรุนแรงของอาการชัก ซึ่งทางองค์การอาหารและยาได้อนุมัติยาที่ใช้ CBD (ซีบีดี) ที่เรียกว่า Epidiolex สำหรับการรักษาอาการชักในโรคลมชักสอง เป็นรูปแบบการรักษาที่เห็นผลได้ดี ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตก็จะมีการพัฒนานำสารกัญชามาใช้ในการรักษามากขึ้นอย่างแน่นอน


กัญชาส่งผลต่อสภาวะสุขภาพแต่ละคนอย่างไร?

ผลกระทบการสูบกัญชาต่อสภาวะสุขภาพของแต่ละคนแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการสูบกัญชา หรือจะเป็นปริมาณการใช้สารกัญชา นั่่นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของคุณด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือ ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การบริโภคกัญชามากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินหายใจเนื่องจากการสูบบุหรี่ เช่น หลอดลมอักเสบ และปอดถูกทำลาย นอกจากนี้แล้วการสูบกัญชาเรื้อรัง ก็อาจนำไปสู่ความบกพร่องเรื่องสุขภาพจิต ระบบการหายใจ หรือจะส่งเรื่องเรื่องสมาธิสั้น ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความดันโลหิต, โรควิตกกังวล, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน และอื่นๆ จำเป็นจะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อขอคำแนะนำส่วนบุคคลเพื่อป้องกันความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นก่อน


4 views0 comments
bottom of page